คำแนะนำในการย้ายข้อมูล

Google มีผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพมากมายในพอร์ตโฟลิโอ รวมถึง Health Connect เราได้เลิกใช้งาน API ของ Google Fit แล้ว และจะรองรับจนถึงปี2026 ซึ่งจะเป็นปีที่เราปิดให้บริการ หลักเกณฑ์ต่อไปนี้จะแสดง API หรือแพลตฟอร์มที่จะย้ายข้อมูลจาก Google Fit Android API แต่ละรายการ

การย้ายข้อมูลจาก Fit Android API ไปยัง Health Connect API

คุณต้องทําตามขั้นตอนสําคัญ 3 ขั้นตอนเพื่อย้ายข้อมูลไปยัง Health Connect API

ขั้นตอนที่ 1: ผสานรวม

ขั้นตอนแรกในการผสานรวมคือการเพิ่ม Health Connect ลงในแอป ซึ่งจะรวมถึงการดำเนินการต่อไปนี้

  • ผสานรวมกับ Health Connect โดยทําตามขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานเหล่านี้
  • ประกาศประเภทข้อมูลและโหมดการเข้าถึงที่จำเป็นในไฟล์ Manifest ของแอป
  • ขอสิทธิ์จากผู้ใช้เพื่อเข้าถึง Health Connect
  • อ่าน/เขียนข้อมูลตาม Use Case หรือเวิร์กโฟลว์ที่เฉพาะเจาะจง

ขั้นตอนที่ 2: ย้ายข้อมูล

เราขอแนะนำให้เปิดใช้งานการผสานรวมทั้ง Google Fit Android API และ Health Connect API ไว้ขณะที่ผู้ใช้ย้ายข้อมูลจากแพลตฟอร์มหนึ่งไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง แม้ว่าเราจะเลิกใช้งาน Google Fit Android API แล้ว แต่เราตั้งเป้าที่จะปิดให้บริการ API ดังกล่าวในปี 2026 ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาเพียงพอในการเปลี่ยนไปใช้ Health Connect และใช้บริการต่อ

ขั้นตอนที่ 3: ล้างข้อมูล

ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อนำ Google Fit SDK ออก

  1. นำโค้ดที่เชื่อมโยงกับ Google Fit Android API ออก
  2. นำข้อกำหนดเบื้องต้นของบริการ Google Play ออก

Sensor API

Sensor API ช่วยให้คุณอ่านข้อมูลเซ็นเซอร์ดิบในแอปแบบเรียลไทม์ได้ Sensor API ทำงานดังนี้

  • แสดงรายการแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ในอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริม
  • ลงทะเบียน Listeners เพื่อรับข้อมูลเซ็นเซอร์ดิบ
  • ยกเลิกการลงทะเบียนผู้ฟังเพื่อไม่ให้รับข้อมูลเซ็นเซอร์ดิบอีกต่อไป

ย้ายข้อมูลจาก Sensors API ไปยัง API หรือแพลตฟอร์มต่อไปนี้

โทรศัพท์ Wear

ใช้ SensorManager, FusedLocationProvider

ใช้บริการด้านสุขภาพ

  • PassiveMonitoringClient
  • MeasureClient
  • ExerciseClient

    หรือใช้ SensorManager, FusedLocationProvider

Session API

เซสชันแสดงช่วงเวลาที่ผู้ใช้ออกกำลังกาย

Session API ช่วยให้คุณสร้างเซสชันใน Store ฟิตเนสได้

ย้ายข้อมูลไปยัง API หรือแพลตฟอร์มต่อไปนี้จาก Session API

โทรศัพท์ Wear

เริ่ม/หยุด: ไม่เกี่ยวข้อง แอปพลิเคชันควรติดตามสถานะเซสชันที่ดำเนินอยู่ภายใน

อ่าน/เขียน: ใช้ Health Connect

เริ่ม/หยุด: ใช้บริการสุขภาพ (ExerciseClient)

อ่าน/เขียน: ใช้ Health Connect ผ่านแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

สำหรับเวิร์กโฟลว์ที่เฉพาะเจาะจง เราขอแนะนำดังนี้

  • การป้อนข้อมูลเซสชัน: นักพัฒนาแอปควรใช้ Health Connect ผ่านแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และป้อนระเบียน ExerciseSession หรือระเบียน SleepSession ตามลำดับ

Recording API

Recording API ช่วยให้แอปของคุณขอพื้นที่เก็บข้อมูลเซ็นเซอร์อัตโนมัติในลักษณะที่ประหยัดแบตเตอรี่ได้ด้วยการสมัครใช้บริการ การสมัครใช้บริการจะเชื่อมโยงกับแอป Android และประกอบด้วยประเภทข้อมูลการออกกำลังกายหรือแหล่งข้อมูลหนึ่งๆ

ย้ายข้อมูลไปยัง API หรือแพลตฟอร์มต่อไปนี้จาก Recording API

โทรศัพท์ Wear

ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อย้ายข้อมูลจาก Recording API

  1. ใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ Recording API บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  2. เขียนข้อมูลที่บันทึกลงใน Health Connect หรือฐานข้อมูลแอป

ใช้บริการด้านสุขภาพ

  • PassiveMonitoringClient
  • ExerciseClient

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง PassiveMonitoringClient กับ ExerciseClient ได้ในเอกสารประกอบบริการสุขภาพ

History API

History API ช่วยให้แอปของคุณดําเนินการแบบเป็นกลุ่มใน Store ฟิตเนสได้ ซึ่งรวมถึงการอ่าน แทรก อัปเดต และลบข้อมูลประวัติด้านสุขภาพและความแข็งแรงสมบูรณ์

ย้ายข้อมูลไปยัง API หรือแพลตฟอร์มต่อไปนี้จาก History API

โทรศัพท์ Wear

ใช้ Health Connect

ใช้ Health Connect จากแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไม่ใช่อุปกรณ์ที่สวมใส่ได้

Goals API

เป้าหมายคือเป้าหมายในแอป Google Fit ที่ผู้ใช้ตั้งไว้เองได้ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ใช้งานอยู่เสมอ ผู้ใช้สามารถปรับจำนวนก้าวและคะแนนคาร์ดิโอที่ต้องการในแต่ละวันได้จากในโปรไฟล์ แพลตฟอร์ม Fit จะบันทึกเป้าหมายและติดตามกิจกรรมประจำวันเทียบกับเป้าหมายเหล่านี้โดยใช้ Goals API

โทรศัพท์ Wear
ไม่มี API เปลี่ยนทดแทน ไม่มี API เปลี่ยนทดแทน

BLE API

แอปสามารถค้นหาอุปกรณ์บลูทูธพลังงานต่ำ (BLE) ที่พร้อมใช้งานและแทรกข้อมูลเซ็นเซอร์ลงในแพลตฟอร์ม Google Fit โดยใช้ BLE API

ย้ายข้อมูลไปยัง API หรือแพลตฟอร์มต่อไปนี้จาก BLE API

โทรศัพท์ Wear
ใช้ Android Bluetooth API โดยตรง ใช้ Android Bluetooth API โดยตรง