Google Play Developer API

ภาพรวม

Google Play Console มีชุด API บริการเว็บที่อิงตาม REST ซึ่งช่วยให้คุณดำเนินการเผยแพร่ การรายงาน และฟังก์ชันการจัดการแอปอื่นๆ ของแอปได้โดยตรง

นักพัฒนาแอปบางรายไม่จำเป็นต้องใช้ API สําหรับนักพัฒนาแอปเหล่านี้ ในหลายกรณี คุณสามารถจัดการแอปได้โดยตรงโดยใช้ Google Play Console อย่างไรก็ตาม หากคุณมี APK จำนวนมากที่ต้องจัดการ หรือต้องติดตามการซื้อและการสมัครใช้บริการของผู้ใช้ คุณอาจพบว่า API เหล่านี้มีประโยชน์

มีอะไรให้บ้าง

Google Play Developer API ช่วยให้คุณมุ่งเน้นที่การออกแบบและพัฒนาแอปได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาและแรงน้อยกว่าในการจัดการรุ่นต่างๆ แม้ว่าคุณจะขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ก็ตาม

Google Play Console มีชุด API ที่คุณสามารถใช้เพื่อจัดการแอป ดังนี้

  • Publishing API ช่วยให้คุณอัปโหลดและเผยแพร่แอป รวมถึงทำงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ได้
  • Subscriptions and In-App Purchases API ช่วยให้คุณจัดการการซื้อในแอปและการสมัครใช้บริการได้ (ก่อนหน้านี้เรียกว่า "Purchase Status API")
  • Reporting API ช่วยให้คุณดึงข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของแอปจาก Android Vitals ได้
  • Reply to Reviews API ช่วยให้คุณเรียกข้อมูลและตอบกลับรีวิวของแอปได้
  • Permissions API ช่วยให้คุณจัดการสิทธิ์ภายใน Play Console ได้โดยอัตโนมัติ
  • Play Games Services Management API ช่วยให้คุณเรียก REST เพื่อควบคุมข้อมูลเมตาที่อยู่เบื้องหลังฟีเจอร์ของบริการเกมของ Play โดยใช้โปรแกรมได้
  • Voided Purchases API จะแสดงรายการคำสั่งซื้อที่เชื่อมโยงกับการซื้อที่ผู้ใช้ยกเลิก

เริ่มต้นใช้งาน

หากต้องการเริ่มต้นใช้งาน Google Play Developer API โปรดดูเอกสารประกอบเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้งาน

API การเผยแพร่

Publishing API ช่วยให้คุณทำงานที่ต้องทำเป็นประจำเกี่ยวกับการเผยแพร่แอปได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะมีฟังก์ชันการทำงานคล้ายกับที่นักพัฒนาแอปมีผ่าน Play Console เช่น

  • การอัปโหลดแอปเวอร์ชันใหม่
  • การเผยแพร่แอปโดยกำหนด APK ให้กับแทร็กต่างๆ (อัลฟ่า เบต้า การเปิดตัวแบบทีละขั้น หรือเวอร์ชันที่ใช้งานจริง)
  • การสร้างและการแก้ไขข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Google Play Store รวมถึงข้อความและกราฟิกที่แปลแล้ว รวมถึงภาพหน้าจอสำหรับอุปกรณ์หลายรุ่น

โดยระบบจะดําเนินการดังกล่าวโดยใช้ฟังก์ชันแก้ไข ซึ่งใช้แนวทางธุรกรรมในการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะช่วยให้คุณรวมการเปลี่ยนแปลงหลายรายการไว้ในฉบับร่างการแก้ไขฉบับเดียว แล้วทําการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดพร้อมกันได้ (การเปลี่ยนแปลงจะไม่มีผลจนกว่าจะมีการบันทึกการแก้ไข)

แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • จำกัดจำนวนการอัปเดตแอป อย่าเผยแพร่การอัปเดตรุ่นอัลฟ่าหรือเบต้าบ่อยกว่าวันละครั้ง (แอปเวอร์ชันที่ใช้งานจริงควรอัปเดตให้นานกว่านั้น) การอัปเดตทุกครั้งทำให้ผู้ใช้เสียเวลาและอาจเสียเงิน หากคุณอัปเดตบ่อยเกินไป ผู้ใช้อาจเริ่มไม่สนใจการอัปเดตหรืออาจถอนการติดตั้งผลิตภัณฑ์

Subscriptions and In-App Purchases API

Subscriptions and In-App Purchases API ช่วยให้คุณจัดการแคตตาล็อกไอเทมที่ซื้อในแอปและการสมัครใช้บริการของแอปได้ นอกจากนี้ Subscriptions and In-App Purchases API ยังช่วยให้คุณดึงรายละเอียดการซื้อได้อย่างรวดเร็วโดยใช้คำขอ GET มาตรฐาน

ในคำขอ คุณต้องระบุข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อ เช่น ชื่อแพ็กเกจแอป รหัสการซื้อหรือการสมัครใช้บริการ และโทเค็นการซื้อ เซิร์ฟเวอร์จะตอบกลับด้วยออบเจ็กต์ JSON ที่อธิบายรายละเอียดการซื้อที่เกี่ยวข้อง สถานะการสั่งซื้อ เพย์โหลดของนักพัฒนาแอป และข้อมูลอื่นๆ

คุณสามารถใช้ API นี้ในหลายวิธี เช่น สำหรับการรายงานและการไกล่เกลี่ยคำสั่งซื้อแต่ละรายการ รวมถึงสำหรับการยืนยันการซื้อและการหมดอายุของการสมัครใช้บริการ นอกจากนี้ คุณยังใช้ API เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งซื้อที่ยกเลิกและยืนยันว่ามีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อในแอปหรือไม่ รวมถึงมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อในแอปก่อนการยกเลิกหรือไม่

แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • จัดเก็บข้อมูลการสมัครใช้บริการไว้ในเซิร์ฟเวอร์เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียก API ที่ไม่จำเป็น เมื่อแอปต้องยืนยันการสมัครใช้บริการ คุณควรใช้ข้อมูลที่แคชไว้ในเซิร์ฟเวอร์แทนการเรียก API ไปยัง Google ซ้ำ
  • เซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัยควรใช้ Google Play Developer API เพื่อรับข้อมูลการสมัครใช้บริการใน 2 กรณีต่อไปนี้
    • เซิร์ฟเวอร์ของคุณจะได้รับโทเค็นการซื้อใหม่ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
    • เซิร์ฟเวอร์ของคุณได้รับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์สำหรับนักพัฒนาแอป (RTDN) ซึ่งบ่งบอกว่าคุณต้องใช้โทเค็นการซื้อเพื่อรับข้อมูลการสมัครใช้บริการใหม่
  • อย่าตรวจสอบสถานะการสมัครใช้บริการจาก API เป็นประจํา เช่น อย่าเรียกใช้ API ทุกวันเพื่อตรวจสอบการสมัครใช้บริการแต่ละรายการ
  • เนื่องจากคุณจะได้รับ RTDN เมื่อการสมัครใช้บริการหมดอายุหรือต่ออายุ คุณจึงไม่จำเป็นต้องกำหนดเวลาการเรียก API ตามเวลาหมดอายุที่กำหนดไว้

API การรายงาน

Reporting API เหมาะสำหรับนักพัฒนาแอปที่ต้องการสร้างเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติเพิ่มเติมจากข้อมูล Play Console หรือนักพัฒนาแอปที่ใช้ข้อมูล Play Console สำหรับการรายงานและการวิเคราะห์ธุรกิจภายใน ซึ่งอาจใช้ควบคู่ไปกับชุดข้อมูลอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลและเมตริกระดับแอปแบบเป็นโปรแกรมสำหรับการรายงานภายใน การวิเคราะห์ และระบบอัตโนมัติ

Reporting API ให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูล Android Vitals ซึ่งรวมถึงอัตราการขัดข้อง อัตรา ANR ปัญหาการตื่นและการล็อกจากการตื่น และข้อผิดพลาดของสแต็กเทรซ

แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • Reporting API เวอร์ชันนี้มีขีดจํากัดเริ่มต้นที่ 10 คําค้นหาต่อวินาที คุณสามารถดูปริมาณการใช้โควต้าได้ในส่วนโควต้าของคอนโซล Google Cloud หากต้องการใช้เกินขีดจำกัดนี้ คุณสามารถส่งคำขอโควต้าโดยใช้แบบฟอร์มนี้

Reply to Reviews API

Reply to Reviews API ช่วยให้คุณดูความคิดเห็นของผู้ใช้เกี่ยวกับแอปและตอบกลับความคิดเห็นนี้ได้ คุณสามารถใช้ API นี้เพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้ได้โดยตรงภายในชุดเครื่องมือสนับสนุนลูกค้าที่มีอยู่ เช่น ระบบ CRM

Reply to Reviews API ช่วยให้คุณเข้าถึงความคิดเห็นสำหรับแอปเวอร์ชันที่ใช้งานจริงเท่านั้น หากต้องการดูความคิดเห็นสำหรับแอปเวอร์ชันอัลฟ่าหรือเบต้า ให้ใช้ Google Play Console แทน นอกจากนี้ โปรดทราบว่า API จะแสดงเฉพาะรีวิวที่มีความคิดเห็น หากผู้ใช้ให้คะแนนแอปแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น คุณจะเข้าถึงความคิดเห็นดังกล่าวจาก API ไม่ได้

Permissions API

Permissions API ช่วยให้นักพัฒนาแอปสามารถจัดการสิทธิ์โดยอัตโนมัติใน Play Console วิธีนี้ช่วยให้คุณควบคุมผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชีนักพัฒนาแอปได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ต้องดำเนินการด้วยตนเอง

Permissions API ช่วยให้คุณทำฟังก์ชันการดูแลระบบต่างๆ ได้ เช่น

  • นำสิทธิ์เข้าถึงของผู้ใช้ออกเมื่อออกจากบริษัท
  • การให้สิทธิ์เข้าถึงแอปเมื่อผู้ใช้เข้าร่วมทีมที่เกี่ยวข้อง

Voided Purchases API

Voided Purchases API จะแสดงรายการคำสั่งซื้อที่เชื่อมโยงกับการซื้อที่ผู้ใช้ยกเลิก คุณสามารถใช้ข้อมูลจากรายการนี้เพื่อติดตั้งใช้งานระบบเพิกถอนซึ่งป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เข้าถึงผลิตภัณฑ์จากคำสั่งซื้อเหล่านั้น

API นี้ใช้กับคำสั่งซื้อในแอปแบบครั้งเดียวและการสมัครใช้บริการแอป

คุณยกเลิกการซื้อได้ดังนี้

  • ผู้ใช้ขอเงินคืนสำหรับคำสั่งซื้อ
  • ผู้ใช้ยกเลิกคำสั่งซื้อ
  • มีการเรียกคืนเงินสำหรับคำสั่งซื้อ
  • นักพัฒนาแอปยกเลิกหรือคืนเงินคำสั่งซื้อ หมายเหตุ: เฉพาะคำสั่งซื้อที่ถูกเพิกถอนเท่านั้นที่จะแสดงใน Voided Purchases API หากนักพัฒนาแอปคืนเงินโดยไม่ตั้งค่าตัวเลือกเพิกถอน คำสั่งซื้อจะไม่แสดงใน API
  • Google ยกเลิกหรือคืนเงินสำหรับคำสั่งซื้อ

การใช้ API นี้จะช่วยให้ผู้ใช้แอปทุกคนได้รับประสบการณ์การใช้งานที่สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่แอปของคุณเป็นเกม